K-Me Article


พันธะเคมี ตอนที่ 8 รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ (Shape of covalent molecules)

รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ (Shape of covalent molecules)

 

                พันธะโคเวเลนต์เป็นพันธะที่มีทิศทางและมุมระหว่างพันธะที่แน่นอน  เนื่องจากการสร้างพันธะเกิดจากการใช้อิเล็กตรอนร่วมกันระหว่างอะตอมที่สร้างพะนธะกัน  โดยอาจมีอิเล็กตรอนที่ไม่ได้ใช้ในการสร้างพันธะหรือที่เรียกว่าอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวเหลืออยู่ด้วยก็ได้    ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กตรอนที่สร้างพันธะหรืออิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว ต่างก็มีประจุลบเหมือนกัน  จึงมีแรงผลัก (repulsion)  ซึ่งกันและกัน  ผลของแรงผลักจะทำให้พันธะแยกตัวอยู่ในตำแหน่งที่สมดุลระหว่างแรงผลักที่มีต่อกัน  ทำให้เกิดขนาดของมุมระหว่างพันธะที่เหมาะสมและเกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุลขึ้นมาได้  รูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุลจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับโครงสร้างโมเลกุลของสารแต่ละชนิด  ว่าประกอบด้วยอะตอมจำนวนเท่าไร  มีการสร้างพันธะอย่างไร  และมีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวหรือไม่   
             ถ้าโมเลกุลประกอบด้วยอะตอมเพียง  2  อะตอม  จะมีรูปร่างเป็นเส้นตรง (Linear)  เสมอ  เช่น  H2  F2  Cl2  Br2  I2  N2  O2 HCl  HBr  HI  ... แต่ถ้าโมเลกุลประกอบด้วยอะตอมมากกว่า  2  อะตอม  รูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุลจะเป็นไปได้หลายแบบ    การพิจารณาว่ารูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุลเป็นอย่างไร  ให้เริ่มพิจารณาที่อะตอมกลางของโมเลกุล    โดยมีหลักการสำคัญดังต่อไปนี้

                1.  พิจารณาว่ามีพันธะรอบอะตอมกลางกี่พันธะ  (พันธะเดี่ยว  พันธะคู่  หรือพันธะสาม  นับเป็น  1  พันธะเท่ากัน) 
                2.  พิจารณาว่ามีอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวหรือไม่  ถ้ามีต้องดูว่ามีกี่คู่    
                3.  นำโครงสร้างโมเลกุลที่ได้จากข้อ  1  และ  2  ใช้ร่วมกับทฤษฎีการผลักของคู่อิเล็กตรอน ( VSEPR ) เพื่อบอกรูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุล


            ทฤษฎีการผลักของคู่อิเล็กตรอน (Valence Shell Electron Pair Repulsion  , VSEPR)   คิดค้นขึ้นโดย โรนัลด์ กิลเลสพาย และ เซอร์โรนัลด์ ซิดนีย์ ไนโฮล์ม เมื่อ พ.ศ. 2500 ใช้สำหรับทำนายรูปร่างหรือรูปทรงเรขาคณิตของโมเลกุลโคเวเลนต์   โดยดูจากจำนวนพันธะและอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว (Stearic number)  รอบอะตอมกลาง   จากสูตรโครงสร้างแบบลิวอิส  แล้วจำลองให้เป็นรูปทรงสามมิติ   โดยมีหลักการว่าอิเล็กตรอนรอบอะตอมกลาง    ทั้งอิเล็กตรอนที่สร้างพันธะและอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว  จะมีแรงผลักซึ่งกันและกันทำให้อยู่ห่างกันที่สุดเท่าที่จะทำได้   ทำให้มีมุมระหว่างพันธะที่เหมาะสม  จึงเกิดเป็นรูปทรงเรขาคณิตแบบต่าง ๆ ขึ้นมาได้

กำหนดสัญลักษณ์ ของโครงสร้างโมเลกุลตามทฤษฎี  VSEPR  ด้วยสูตร    AXE  (หรืออาจใช้ตัวอักษรอื่น  เช่น  ABE แต่ความหมายเดียวกัน)  ฉะนั้นเมื่อกล่าวว่าให้เขียนสัญลักษณ์  VSEPR   จึงหมายถึงให้เขียนสูตร  AXE  ว่าเป็นแบบใด  ตัวอักษรในสูตรมีความหมายดังนี้

A  =  อะตอมกลางของโมเลกุล

X  =  จำนวนพันธะรอบอะตอมกลาง (พันธะเดี่ยว  พันธะคู่  พันธะสาม  นับเป็น  1  พันธะเหมือนกัน)

E  =  จำนวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวของอะตอมกลาง (นับเป็นคู่ ๆ)

 

ตัวอย่าง  สารที่มีโครงสร้างโมเลกุลดังนี้

 

เมื่อแสดง  VSEPR  ด้วยสูตร  AXE  ความหมายของตัวอักษรแต่ละตัวจะเป็นดังนี้

                A  หมายถึงอะตอมกลางของโมเลกุล  กรณีของตัวอย่างนี้หมายถึง  N

                X  หมายถึงจำนวนพันธะรอบอะตอมกลาง  กรณีนี้  คือ  3  พันธะ

                E  หมายถึงจำนวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวรอบอะตอมกลาง กรณีนี้  คือ   1  คู่

                **  สัญลักษณ์ VSEPR  ของสารนี้คือ  AX3E1

คำถาม  จงพิจารณาว่าสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลดังต่อไปนี้  เมื่อใช้อะตอมหมายเลข  1  2  และ  3  เป็นอะตอมกลางแล้ว  จะมีสัญลักษณ์  VSEPR  หรือสูตร  AXE  อย่างไรบ้าง

คำตอบ      1.  เมื่ออะตอมหมายเลข  1  เป็นอะตอมกลาง  สัญลักษณ์  VSEPR   คือ  AX2E2

                2.  เมื่ออะตอมหมายเลข   2  เป็นอะตอมกลาง  สัญลักษณ์  VSEPR  คือ  AX3E0

                3.  เมื่ออะตอมหมายเลข  3  เป็นอะตอมกลาง  สัญลักษณ์  VSEPR  คือ  AX4E0

 

คำถาม  จงพิจารณาว่าสารที่มีโครงสร้างโมเลกุลดังต่อไปนี้  อะตอมกลางที่มีสัญลักษณ์  VSEPR  เป็น  AX3E0   AX4E0 AX3E1  AX2E2   มีชนิดละกี่อะตอม

คำตอบ   AX3E0  มี..................อะตอม   AX4E0 มี..................อะตอม   AX3E1 มี..................อะตอม     AX2E2 มี..................อะตอม   

ถ้าโมเลกุลของสารโคเวเลนต์ชนิดต่าง ๆ  มีสูตร   AXE  เหมือนกันก็จะมีรูปทรงเรขาคณิตเหมือนกัน  โดยรูปทรงเรขาคณิตแต่ละแบบ จะมีขนาดของมุมระหว่างพันธะแตกต่างกัน   สูตร   AXE  รูปทรงเรขาคณิต ของโมเลกุลและขนาดของมุมระหว่างพันธะ   มีดังนี้

ตารางแสดงสูตร AXE รูปทรงเรขาคณิต และมุมระหว่างพันธะ  ของโมเลกุลโคเวเลนต์

 

สูตร  AXE
ของโมเลกุล 

รูปทรงเรขาคณิตของกลุ่มอิเล็กตรอน
รอบอะตอมกลาง

ภาพแสดงรูปทรงเรขาคณิต
ของโมเลกุล


สาร
ตัวอย่าง 


มุมระหว่างพันธะ 

โมเลกุลอะตอมคู่
(ไม่มีสัญลักษณ์
AXE)


-


เส้นตรง
(linear)


HF, O2, H2 ,N2,Cl2


-


AX2E0


(เส้นตรง)


เส้นตรง
(linear)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)


BeCl2, HgCl2, CO2




AX3E0


(สามเหลี่ยมระนาบ)


สามเหลี่ยมระนาบ
(triangle หรือ, trigonal planar)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)


BF3, CO32, NO3, SO3



AX2E1


(สามเหลี่ยมระนาบ)


มุมงอ
(bent , angular)
(คล้ิก ชมรูปทรงสามมิติ)


NO2, SO2, O3

 

 

 

AX4E0 

      
      ทรงสี่หน้า


ทรงสี่หน้า

(tetrahedral)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)


CH4, PO43, SO42, ClO4 CO32-

 

 

AX3E1 

     
      ทรงสี่หน้า


พีระมิดฐานสามเหลี่ยม
(trigonal pyramid)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



NH3, PCl3

 

 


AX2E2


ทรงสี่หน้า


มุมงอ
(bent ,angular)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



H2O, OF2

 

 

 



AX5E0



พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม

 


พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม

(trigonal bipyramid)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)




PCl5

 

 



ในแนวระนาบฐานพีระมิดทำมุมกัน 120 องศา ส่วนส่วนสูงของพีระมิดทำมุม 90 องศากับระนาบ

 

 


AX4E1



พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม



ม้ากระดก
(see saw)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



SF4

 

 

AX3E2


พีระมิดคู่ฐานสามเหลี่ยม

 


ตัวที
(T-shape)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)

 



ClF3, BrF3

 

 



น้อยกว่า 90 องศา

 

AX2E3


พีระมิดคู่

ฐานสามเหลี่ยม


เส้นตรง

(linear)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



XeF2, I3

 


180 องศา

 

 

AX6E0

 


ทรงแปดหน้า

 


ทรงแปดหน้า

(octrahedral)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)

 

SF6

 

 

 

90 องศา

 

AX5E1


ทรงแปดหน้า

 


พีระมิดฐานสี่เหลี่ยม
(square pyramid)
(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



ClF5, BrF5

 


90 องศา

 

AX4E2


ทรงแปดหน้า

 


สี่เหลี่ยมจัตุรัส
(square plana)

(คลิ้ก ชมรูปทรงสามมิติ)



XeF4

 

 


90 องศา

 

 

AX7E0


พีระมิดคู่ฐานห้าเหลี่ยม

(pentagonal bipyramid)


พีระมิดคู่ฐานห้าเหลี่ยม

(pentagonal bipyramid)




IF7

 

 


ในแนวระนาบฐานพีระมิดทำมุมกัน 72 องศา ส่วนส่วนสูงของพีระมิดทำมุม 90 องศากับระนาบ

 

 

 

AX6E1 

พีระมิดคู่ฐานห้าเหลี่ยม

 

พีระมิดฐานห้าเหลี่ยม
(pentagonal pyramid)

 




XeF6

 

 


ในแนวระนาบฐานพีระมิดทำมุมกัน 72 องศา ส่วนส่วนสูงของพีระมิดทำมุมน้อยกว่า 90 องศากับระนาบ



(คลิ้ก  ศึกษาเพิ่มเติม Shape of simple molecule Part I)

(คลิ้กศึกษาเพิ่มเติม  Shape of simple molecule Part II)

(คลิ้กศึกษาทฤษฎี VSEPR เพิ่มเติม) 

 

ข้อสังเกต  โมเลกุลฟอสฟอรัส  (P4)

                อะตอม  P  มีเวเลนซ์อิเล็กตรอน  5  ตัว สร้างพันธะเดี่ยวกับ  P  อะตอมอื่นอีก  3  อะตอมเหลืออิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว  1  คู่  ผลักให้ทุกพันธะงอลง  เกิดรูปร่างเป็นทรงสี่หน้า  ชนิดที่ไม่มีอะตอมกลาง และมีมุมระหว่างพันธะ  P - P - P   เท่ากับ  600    ทุกมุม  ดังรูป


สารโคเวเลนต์โมเลกุลใหญ่ที่ประกอบด้วยอะตอมจำนวนมาก สร้างพันธะต่อเนื่องกันเป็นสายโซ่  เช่น สารไฮโดรคาร์บอน  จะประกอบด้วยรูปทรงเรขาคณิตหลายรูปต่อเนื่องกัน   เช่น  C5H12  ถ้าเราใช้อะตอมของ  C  แต่ละอะตอมเป็นอะตอมกลาง  จะได้รูปทรงเรขาคณิตเป็นทรงสี่หน้า  5  รูปต่อเนื่องกัน  ดังรูป


   สำหรับ  CH3COOH  จะมีรูปทรงเรขาคณิต  3  รูป  ขึ้นอยู่กับว่าจะให้อะตอมใดเป็นอะตอมกลาง   ดังรูป


         เมื่อให้อะตอมหมายเลข   1  ซึ่งเป็นอะตอมของ  C  เป็นอะตอมกลางจะเป็นทรงสี่หน้า (tetrahedral)  ดังรูป


       เมื่อให้อะตอมหมายเลข   2  ซึ่งเป็นอะตอมของ  C  เป็นอะตอมกลางจะเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ (trigonal plana) ดังรูป 


เมื่อให้อะตอมหมายเลข  3   ซึ่งเป็นอะตอมของ  O  เป็นอะตอมกลางจะเป็นมุมงอ (bent)  ดังรูป


(คลิ้ก  ชมรูปร่างโมเลกุลของสารบางชนิด)
  (คลิ้ก รูปทรงเรขาคณิดของโมเลกุลบางชนิด)

 

                จงพิจารณาว่า  แต่ละโมเลกุลดังรูปต่อไปนี้  เมื่อใช้อะตอมกลางต่างกันแล้ว  จะเกิดรูปทรงเรขาคณิตแบบใดบ้าง  


แบบฝึกหัด 

1.  Draw the Lewis formula for SeF4. What term describes the shape of this species? (Ans.d)
     (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ SeF4 แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
     a)   tetragonal pyramid b)   tetrahedral                     c)   square planar              
     d)   see-saw                                  e)   octahedral

2. Draw the Lewis formula for ICl2-. What term describes the shape of this species? (Ans.d) 

   (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ ICl2-. แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
  a)   see-saw                                        b)   angular                    c)   tetrahedral
  d)   linear                                            e)   square planar

 

3. Draw the Lewis formula for AsCl4+. What term describes the shape of this species? (Ans.d) 
  (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ AsCl4+แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)

   a)   see-saw                       b)   angular                           c)   linear
   d)   tetrahedral                  e)   square planar


4. Draw the Lewis formula for NH2-. What term describes the shape of this species? (Ans.e) 

    (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ NH2- แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
   a)   linear                                            b)   square planar                               c)   see-saw
   d)   tetrahedral                                   e)   angular

 

5.  Draw the Lewis formula for SiCl4. What term describes the shape of this species? (Ans.e) 

    (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ SiCl4  แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
    a)   see-saw                                      b)   octahedral                     c)   tetragonal pyramid
   d)   square planar                              e)   tetrahedral

 

6.  Draw the Lewis formula for IF2+. What term describes the shape of this species? (Ans.e) 

    (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ IF2+  แล้วจะมีรูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
    a)   linear                                           b)   square planar                               c)   see-saw
    d)   tetrahedral                                 e)   angular

 

7.  Which of the species in the following list is T-shaped? (Ans.d)  (สารใดบ้างมีรูปร่างโมเลกุลเป็นรูปตัว T)

    1) ClF3                        2) BF3                3) ClO3-              4) GeCl3+                        5) SiH3-
     a)   3 only                    b)   1 and 3                     c)   3 and 5
     d)   1 only                    e)   2 and 4

 
 8. Which of the
species in the following list is trigonal planar? (Ans.d) 

    (สารใดบ้างมีรูปร่างโมเลกุลเป็นสามเหลี่ยมแบนราบ)
    1) ClF3                        2) BF3                3) ClO3-              4) GeCl3+                        5) SiH3-
    a)   1 only                   b)   3 only                       c)   3 and 5        
    d)   2 and 4                e)   1 and 3

 
 

9.  Which of the species in the following list is see-saw shaped? (Ans.d)
    (สารใดบ้างมีรูปร่างโมเลกุลเป็นรูปม้ากระดก)
    1) BF4-                                2) SF4                     3) XeF4                   4) SiF4                              5) PCl4-
   a)   1 only                            b)   3 only                              c)   1 and 4          
   d)   2 and 5           e)   1 and 3

 

 

10. Draw the Lewis formula for NF4+. What term describes the shape of this species? (Ans.a)
     (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ NF4+ แล้ว  รูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
     a)   tetrahedral                b)   angular           c)   linear               d)   square planar               e)   see-saw

 

 

11.  Draw the Lewis formula for BrF4-. What term describes the shape of this species? (Ans.a)
      (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ BrF4-แล้ว  รูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
      a)   square planar         b)   angular           c)   linear               d)   tetrahedral     e)   see-saw

 

 

12. Draw the Lewis formula for GaI3. What term describes the shape of this species? (Ans.a)
     (เมื่อเขียนสูตรลิวอิสของ GaI3 แล้ว  รูปร่างโมเลกุลเป็นแบบใด)
       a)   planar trigonal         b)   T-shaped       c)   trigonal pyramid           d)   square planar              
       e)   tetragonal pyramid

 

 

13.  The shape of the reactant containing sulfur in the following reaction is ______ and that of the product is  
      ______:(Ans.b) (สารที่มี S อยู่ในโมเลกุลระหว่างทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                SF2 + F2  →  SF4
     a)   linear, tetrahedral                    b)   angular, see-saw                          c)   linear, see-saw

     d)   angular, tetrahedral                e)   angular, square planar

 

 

14.  In the following oxidation reaction the shape of the reactant is ______ and the shape of the product is
       ______:(Ans.b)   (สารที่อยู่ทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                                                SF4 → SF42+ + 2 e-
     a)   tetrahedral, see-saw               b)   see-saw, tetrahedral                    c)   tetrahedral, square pyramid

     d)   square planar, T-shaped        e)   T-shaped, square planar

 

 

15. The shape of the reactant containing chlorine in the following reaction is ______ and that of the product is
      ______: (Ans.b) (สารที่มี   Cl  อยู่ในโมเลกุลระหว่างทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                                ClF3 + F2 → ClF5
     a)   trigonal planar, square pyramid                          b)   T-shaped, square pyramid       

     c)   trigonal planar, trigonal bipyramid                      d)   trigonal pyramid, square pyramid
     e)   T-shaped, trigonal bipyramid

 

 

16.  The shape of the reactant containing xenon in the following reaction is ______ and that of the product is  
        ______: (Ans.c) (สารที่มี  Xe  อยู่ในโมเลกุลระหว่างทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                                XeF2 + F→  XeF4
 
    a)   angular, tetrahedral                                b)   linear, see-saw                              c)   linear, square planar

     d)   angular, see-saw                                     e)   linear, tetrahedral

 

 

17.  The shape of the reactant containing germanium in the following reaction is ______ and that of the  
       product is ______: (Ans.c)
       (สารที่มี  Ge  อยู่ในโมเลกุลระหว่างทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                      GeCl3+ + Cl-→  GeCl4
    a)   trigonal pyramid, tetrahedral                                 b)   trigonal planar, square planar   

    c)   trigonal planar, tetrahedral                                    d)   T-shaped, tetrahedral  
    e)   trigonal pyramid, square planar

 

 

18.  The shape of the reactant containing phosphorus in the following reaction is ______ and that of the
        product is ______: (Ans.c)
       (สารที่มี  P  อยู่ในโมเลกุลระหว่างทางซ้ายกับทางขวาของสมการมีรูปร่างโมเลกุลแบบใด)
                                               PCl3 + Cl2→  PCl5
 
    a)   trigonal pyramid, square pyramid                        b)   trigonal planar, trigonal bipyramid

     c)   trigonal pyramid, trigonal bipyramid                   d)   T-shaped, trigonal bipyramid
     e)   T-shaped, square pyramid

 

 

 

19.  The bond angles in IF4- are: (Ans.c) (มุมระหว่างพันธะใน  IF4- เป็นดังข้อใด)
      a)   exactly 120o  (120 o เท่านั้น)     b)   exactly 109.5o (109.5o  องศาเท่านั้น)       
      c)   exactly 90o  (90 องศาเท่านั้น)                d)   slightly less than 90o  (น้อยกว่า 90o นิดหน่อย)
      e)   slightly less than 109.5o  (น้อยกว่า 109.5o  นิดหน่อย)

 

 

20.  The bond angles in AsCl4+ are: (Ans.c) (มุมระหว่างพันธะใน  AsCl4+ เป็นดังข้อใด)
      a)   exactly 120o             b)   slightly less than 90o                    c)   exactly 109.5o               
     d)   exactly 90o                e)   slightly less than 109.5o

 

 

21.  The bond angles in H3O+ are:  (Ans.c) (มุมระหว่างพันธะใน  H3O+ เป็นดังข้อใด)
      a)   exactly 120o                             b)   slightly less than 90o         c)   slightly less than 109.5o
     d)   exactly 90o                                e)   exactly 109.5

 

 

22.  The bond angles in XeF4 are: (Ans.e) (มุมระหว่างพันธะใน  XeF4 เป็นดังข้อใด)
     a)   slightly less than 109.5o            b)   exactly 109.5o                c)   slightly less than 90o
    d)   exactly 120o                               e)   exactly 90o

 

  

23. The bond angles in SnCl3- are: (Ans.e) (มุมระหว่างพันธะใน  SnCl3-  เป็นดังข้อใด)
     a)   slightly less than 90o               b)   exactly 109.5o                c)   exactly 90o          d)   exactly 120o  
     e)   slightly less than 109.5o

 

 

24. The bond angles in BF4- are:  (Ans.e)  (มุมระหว่างพันธะใน  BF4- เป็นดังข้อใด)
     a)   slightly less than 109.5o          b)   exactly 90o                                     c)   slightly less than 90o
     d)   exactly 120o                              e)   exactly 109.5o

 

 

25.  Which of the following has bond angles of approximately 120o? (Ans.e) 

      (สารใดบ้างมีมุมระหว่างพันธะประมาณ  120  องศา)
     1) ClF3                      2) BF4-                3) GeCl3+                        4) PF5                5) GeCl4
     a)   4 and 5      b)   1 and 5       c)   1 and 4         d)   2 and 3         e)   3 and 4

 
  

26.  Which of the following has bond angles of approximately 109.5o? (Ans.e)
      (สารใดบ้างมีมุมระหว่างพันธะประมาณ  109.5  องศา)
     1) ClF5                               2) PCl4+                  3) ClO4-                  4) SF4                     5) SiF42-
     a)   1 and 5      b)   3 and 5           c)   1 and 4           d)   4 and 5           e)   2 and 3

 

 

27.  Which of the following has bond angles of approximately 120o? (Ans.e)
       (สารใดบ้างมีมุมระหว่างพันธะประมาณ  120  องศา)
       1) ClF3                               2) BF3                     3) ClO3-                  4) SF4                     5) GeCl4
       a)   4 only                           b)   5 only                              c)   1 and 4           d)   2 and 3           e)   2 only

 

 

28.)  Fill in the table below to determine the molecular geometry for the following molecules:
     
(จงเติมคำตอบรูปทรงเรขาคณิตในแต่ละด้านของสารแต่ละชนิดที่กำหนดลงในช่องตาราง) 

 

Formula

AXE formula
(สูตร
AXE หรือ ABE)

Number of e- domains on central atom
(จำนวนพันธะและอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวที่อะตอม

กลาง)

# e- domains/ # non-bonding domains
 on central atom
(จำนวนพันธะ/ จำนวนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวที่อะตอมกลาง)

Electron-Domain Geometry (name)
(ชื่อรูปทรงเรขาคณิตของกลุ่มอิเล็กตรอน)

Molecular Geometry

(name)

(ชื่อของรูปทรง
เรขาคณิตของโมเลกุล)

Bond angle(s) on central atom
(ขนาดของมุมระหว่างพันธะทชที่อะตอมกลาง)

CO2

AB2

 

 

 

 

 

BeCl2

AB2

 

 

 

 

 

H2O

AB2E2

 

 

 

 

 

BF3

AB3

 

 

 

 

 

CCl4

AB4

 

 

 

 

 

NH3

AB3E1

 

 

 

 

 

NO3-

AB3

 

 

 

 

 

SO3

AB3

 

 

 

 

 

SO32-

AB3E1

 

 

 

 

 

NF3

AB3E1

 

 

 

&a

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

Size : 15.39 KBs
Upload : 2012-11-17 07:57:43
ติชม

กำลังแสดงหน้า 1/0
<<
1
>>

ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

0
คะแนนโหวด
สร้างโดย :


K-Me
รายละเอียด Share
สถานะ : ผู้ใช้ทั่วไป
วิทยาศาสตร์


โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา พุทธมณฑล
70 หมู่ 2 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ 10170
โทรศัพท์ 0 2441 3593 E-Mail:satriwit3@gmail.com


Generated 0.859299 sec.