หากให้เอ่ยชื่อแบ็คขวา “ท็อปทรี” พรีเมียร์ลีก เชื่อว่าหลายคนต้องนึกถึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ อยู่ในลิสต์แน่นอน หลังจากที่เจ้าตัวทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จนก้าวมาเป็นตัวหลักของทีมหงส์แดงในวัยเพียง 21 ปีเท่านั้น

กว่าจะมาถึง 100 นัดของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ มันมีเรื่องราวมากมายอยู่เบื้องหลังที่น่าสนใจ ซึ่งต้องบอกเลยว่าฝีเท้าของเด็กหนุ่มสเกาเซอร์รายนี้พัฒนาขึ้นแบบก้าวกระโดด หลังจากที่ได้รับโอกาสลงเล่นฟุตบอลอาชีพนัดแรกให้กับสโมสรในช่วงแค่ 2-3 ปีหลังมานี่เอง

 

เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หรือชาวเดอะ ค๊อป เรียกง่ายๆ ว่า เจ้าเทรนต์ เกิดในย่านเวสต์ ดาร์บี้ ของเมืองลิเวอร์พูล โดยเขาเป็นลูกชายคนกลางในครอบครัวที่มีสมาชิก 5 คน คือ ไมเคิ่ล (คุณพ่อ), ไดแอน (คุณแม่), ไทเลอร์ (พี่ชาย) และ มาร์เซล (น้องชาย)

 

ชีวิตวัยเด็กของ เทรนต์ นั้นตรงข้ามกับความเป็นนักฟุตบอลอาชีพอย่างมาก เขาเป็นเพียงเจ้าเด็กเรียนหัวเกรียนคนหนึ่ง หนำซ้ำยังเป็นเด็กที่พ่อแม่พร่ำบอกถึงการใช้ชีวิตอย่างมีคุณภาพและเลี้ยงดูอย่างทะนุถนอม กิจกรรมยามว่างอันโปรดปรานคือมีความสุขสุดๆ เมื่อได้เล่นหมากรุกกับ ไทเลอร์ พี่ชาย นี่อาจเป็นเพราะการได้ลับสมองกับพี่ชายอยู่เสมอ ทำให้เจ้าตัวมักจะมีไหวพริบและความรอบคอบอยู่เสมอ

 

สายสัมพันธ์ระหว่าง เทรนต์ กับลิเวอร์พูลนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นเมื่อปี 2004 ตอนที่เขาเรียนอยู่ที่โรงเรียนประถมศึกษา เซนต์ แมทธิวส์ คาทอลิก และทางโรงเรียนถูกทางสโมสรหงส์แดงเชื้อเชิญให้ไปร่วมแคมป์ฟุตบอลฤดูร้อน ต่อมาโค้ชทีมเยาวชนในยุคนั้นของลิเวอร์พูล เอียน บาร์ริแกน ก็เล็งเห็นแววของเจ้าหนู เทรนต์ จนได้ยื่นข้อเสนอให้เข้าร่วมทีมอะคาเดมี่ของสโมสร ในขณะที่เขามีอายุเพียง 6 ขวบ

 

ฝีเท้าของ เทรนต์ ถูกยกระดับจนก้าวขึ้นไปเป็นกัปตันทีมชุดยู-16 และยู-18 ภายใต้การคุมทีมของ เป๊ป ลินเดอร์ส ซึ่งในช่วงเวลานั้นเขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนไปเตะตา เจอร์เก้น คล็อปป์ ที่ดึงขึ้นไปเล่นให้ทีมชุดใหญ่ จนได้รับโอกาสลงสนามนัดแรก ซึ่งเป็นวันที่ทีมชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ ไป 2 ประตูต่อ 1 ของศึกลีก คัพ วันที่ 25 ตุลาคม 2016

 

 

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าที่จริงแล้ว เทรนต์ ลงเล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลางมาก่อน และคงไม่ต้องเดาเลยว่านักเตะขวัญใจของเขาคือ สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด นั่นเอง อย่างไรก็ตามบทบาทมิดฟิลด์ตัวกลางของเขากลับล้มเหลวลงแบบไม่เป็นท่า แต่ต้องชื่นชม คล็อปป์ ที่สายตาเฉียบขาดเปลี่ยนแปลงตำแหน่งให้เขาไปเล่นแบ็คขวาเหมือนอย่างปัจจุบัน

 

ในตอนนั้นแบ็คขวาขาประจำของทีมมีทั้ง นาธาเนี่ยล ไคลน์ ที่ทำผลงานได้โดดเด่นกับสโมสรและทีมชาติ ยืนเป็นตัวหลัก และมีสำรองไม้แรกอย่าง โจ โกเมซ ดาวรุ่งพุ่งแรงอีกคนที่เล่นได้ทั้งเซ็นเตอร์แบ็คและแบ็คขวา แต่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตแท้ๆ เมื่อ ไคลน์ ก็โดนอาการบาดเจ็บกับความคงเส้นคงวาที่เคยมีลักพาตัวหายไป ส่วนตัวเลือกแรกอย่าง โกเมซ ก็ได้ลงเล่นในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คคู่กับ ฟาน ไดคจ์ ไปแล้ว จึงทำให้โอกาสในการลงเล่นแบ็คขวานั้นตกมาถึง เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

 

ในช่วงแรกๆ เทรนต์ ไม่ได้เป็นดาวรุ่งพุ่งแรงหรือโดดเด่นจัดจ้านมากมายนัก มิหนำซ้ำกลับโดนวิจารณ์เรื่องเกมรับอยู่บ่อยครั้ง โดยเฉพาะในเกมแดงเดือดเมื่อฤดูกาล 2017/18 ที่เขาโดน มาร์คัส แรชฟอร์ด หลอกจนหัวทิ่ม และมีส่วนพลาดกับทั้งสองประตูที่เสียไป ทำให้ต้นสังกัดบุกไปพ่าย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2 ประตูต่อ 1

ด้วยปัญหาในเกมรับนี้เองที่ทำให้ คล็อปป์ ตัดสินใจดร็อปเขาจากตัวจริงในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปแพ้ให้กับบาร์เซโลน่า 3-0 ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามด้วยทัศนคติที่ยอดเยี่ยมบวกกับการซ้อมหนักจนเอาชนะใจเทรนเนอร์ชาวเยอรมันได้สำเร็จ จนได้กลับมามีชื่อเป็นตัวจริงอีกครั้งในนัดที่สอง และเจ้าตัวก็ตอบแทนด้วยการทำ 2 แอสซิสต์ และที่เป็นทีเด็ดคือการเปิดลูกเตะมุมแบบไม่คาดคิดให้ ดิว็อค โอริกี้ ยิงประตูตอกฝาโลงบาร์ซ่าไป 4-0 เป็นที่ฮือฮาถึงกึ๋นในฟุตบอลกันไปทั่วโซเชียล

 

 

เทรนต์ จบฤดูกาล 2018/19 ด้วยการเป็นกองหลังที่แอสซิสต์มากที่สุดในศึกพรีเมียร์ลีกต่อหนึ่งซีซั่น ด้วยจำนวน 12 แอสซิสต์ คว้ากินเนสส์บุ๊คไปครอง พร้อมกับถูกโหวตติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ช่วยให้ ลิเวอร์พูล จบรองแชมป์ด้วยการมีถึง 97 คะแนน

เขาเริ่มสะสมโทรฟี่ด้วยวัยที่ยังน้อย หลังจากคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก และยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ ได้สำเร็จ ด้วยสไตล์การเล่นที่เติมเกมบุกได้อย่างสุดมันส์ บวกกับการครอสบอลที่แม่นยำ จนล่าสุดรับเหมาลูกนิ่งประจำสโมสรไปแล้ว ซึ่งแน่นอนว่าต้องมีเหล่ายักษ์ใหญ่จับตามองเป็นธรรมดา แต่อย่างไรก็ตามเขาออกมายืนกรานแล้วว่า “ผมเป็นสเกาเซอร์ 100%” หนักแน่นเลยว่าเขาจะไม่ย้ายหนีทีมที่เขารักเป็นอันขาด

 

 

นอกจากการทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในระดับสโมสรแล้ว เทรนต์ กลายมาเป็นขาประจำให้กับทีมชาติอังกฤษด้วยเช่นกัน หลังจากที่ได้รับโอกาสลงสนามนัดแรกให้ทีมสิงโตคำรามในเกมกระชับมิตรที่ชนะ คอสตาริก้า 2-0 เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน 2018 ซึ่งตอนนี้เขาลงเล่นไปแล้วทั้งสิ้น 7 นัด ทำไปได้ 1 ประตู

 

 

เสาร์ที่ 2 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ลงเล่นเกมที่ 100 ให้กับลิเวอร์พูล และเป็นเกมที่เขาช่วยให้ทีมเฉือนชนะ แอสตัน วิลล่า 2 ประตูต่อ 1 โดยทำแอสซิสต์สุดสำคัญในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ ครอสบอลสุดสวยให้ ซาดิโอ มาเน่ โหม่งทำประตูชัยได้สำเร็จ

ลงเล่นนัดที่ 100 ให้ลิเวอร์พูลของ เทรนต์ ในวัยเพียง 21 ปีกับอีก 26 วัน ทำให้เขาได้กลายเป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดลำดับที่ 4 ในประวัติศาสตร์ของสโมสร ต่อจาก ไมเคิล โอเว่น (19 ปี 363 วัน), ราฮีม สเตอร์ลิ่ง (20 ปี 6 วัน) และ ร็อบบี้ ฟาวเลอร์ (20 ปี 167 วัน)

 

ยังมีสถิติให้ชื่นชมมากมายไม่ว่าจะเป็นเปอร์เซ็นต์คว้าชัยชนะมากถึง 73% (ชนะ 73 เสมอ 14 แพ้ 13), เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงตัวจริงในเกมนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2 ปีติดต่อกัน เช่นเดียวกับการทำสถิติผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดของพรีเมียร์ลีกที่ทำแอสซิสต์ได้ถึง 3 ครั้งในเกมเดียว ด้วยวัย 20 ปี 143 วัน (เกมชนะ วัตฟอร์ด 5-0 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2019)

 

“ผมต้องการเป็นนักเตะลิเวอร์พูลมาโดยตลอด ผมตั้งเป้าหมายอย่างยิ่งว่าสักวันหนึ่งผมจะกลายมาเป็นกัปตันทีมลิเวอร์พูล ผมเชื่อมั่นในตัวเองมากว่าผมจะทำเช่นนั้นได้ และผมหวังว่ามันจะเป็นแบบนั้นนะ”

 

นี่คือคำพูดของ เทรนต์ ที่แสดงให้เห็นเป้าหมายสูงสุดในชีวิตการค้าแข้งของเขาอย่างชัดเจน ซึ่งเชื่อว่าเหล่าเดอะค็อปต้องปลื้มปริ่มแน่นอน เขายืนยันหนักแน่นว่าจะไม่ย้ายไปไหน พร้อมกับตั้งต้นว่าจะก้าวไปเป็นกัปตันทีมและตำนานของสโมสรเลียนแบบไอดอลของอย่าง สตีเฟ่น เจอร์ราร์ด ให้จงได้

 

เชื่อเหลือเกินว่าบทบาทกัปตันทีมที่เจ้าตัวต้องการนั้นจะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม หากเทียบอายุผู้นำทีมคนปัจจุบันอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ปาไป 29 ปีแล้ว และคงไม่แปลกเช่นกันหากว่าตำแหน่งกัปตันทีมคนต่อไปจะตกเป็นของสเกาเซอร์ที่มีชื่อว่า “เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

 


iReallyLikeFootball.com เว็บไซต์ คอลัมน์ฟุตบอล บทความฟุตบอล ข่าวฟุตบอล สร้างสรรค์ผลงานจากความตั้งใจ โดยกลุ่มคนที่รักและชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตใจ

“Football can make a friend, can make a life”

::::: ต้องการติดต่อสอบถามหรือขอลงโฆษณา :::::

แอด LINE : @803toskz หรือคลิกลิงค์นี้ http://nav.cx/omAqg0Q
Facebook : http://www.facebook.com/ireallylikefootball
Email : ireallylikefootball@gmail.com
หรือติดต่อเราได้ที่ http://www.ireallylikefootball.com/contact